ยารักษาสิวแบบกิน

หัวข้อ

ยารักษาสิวแบบกิน

ยารักษาสิวแบบกิน หนึ่งในปัญหาใหญ่กวนใจวัยรุ่นก็คงหนีไม่พ้นเรื่องสิว เป็นแล้วไม่หายซักที ลองทุกวิธีแล้ว ไม่ว่าจะใช้เจลแต้มสิวที่ขายตามอินเตอร์เน็ต ยารักษาสิว ร้านขายยาแบบกิน เปลี่ยนโฟมล้างหน้าก็แล้ว ยิ่งกดสิวยิ่งอักเสบแดงไปกันใหญ่ โดยในปัจจุบันมียารักษาสิวหลายชนิดในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นชนิดรับประทาน หรือยาทาสิว แต่วิธีการเลือกใช้ยาในผู้ป่วยแต่ละรายก็แตกต่างกันไป วันนี้เภจะมาแนะนำยารักษาสิวแต่ละประเภทกันค่ะ

  1. การรักษาสิวโดยใช้ยาครีมหรือเจลที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว จะทำให้หัวสิวหลุดลอก ลดการเกิดสิว และมีฤทธิ์ลดการอักเสบ เช่น Benzoyl peroxide ใช้ทาบาง ๆ บริเวณที่เป็นสิว วันละ 1 – 2 ครั้ง และยา Adapalene, Tretinoic acid ควรใช้ควบคู่ไปกับ Benzoyl peroxide เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาสิว และระหว่างที่ใช้ยาควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
  2. การรักษาสิวโดยใช้ยาปฏิชีวนะชนิดทา เช่น ยา Erythromycin, Clindamycin มักใช้เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดสิวอักเสบ เหมาะกับผู้ที่เป็นสิวชนิดไม่รุนแรง ทาบริเวณที่เป็นสิววันละ 2 ครั้ง และมักใช้ควบคู่ไปกับ Benzoyl peroxide เพื่อลดปัญหาเชื้อดื้อยา
  3. การรักษาสิวโดยใช้ยาปฏิชีวนะชนิดรับประทาน มักใช้ในผู้ที่เป็นสิวระดับปานกลางถึงรุนแรง ได้แก่ ยาปฏิชีวนะในกลุ่ม Tetracycline, Doxycycline และ Macrolide ระยะเวลาการรับประทานก็ขึ้นกับแต่ละคนว่าตอบสนองต่อยาอย่างไร โดยส่วนใหญ่จะแนะนำให้รับประทานตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป และเพื่อให้การใช้ยามีประสิทธิภาพมากขึ้น แนะนำให้ใช้ร่วมกับยาทา เช่น Benzoyl peroxide หรือ อนุพันธ์วิตามินเอ
  4. การรักษาสิวด้วยยาคุมกำเนิดฮอร์โมนที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชาย เช่น Cyproterone acetate, Spironolactone มักใช้ในผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบระดับปานกลางถึงรุนแรงและเป็นผู้ที่มีผิวหน้ามันมาก

 

จะเห็นว่ามียารักษาสิวให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ ยารักษาสิวแบบกิน 

 

ยารักษาสิวแบบกิน ทั้งนี้ก็ต้องเลือกใช้ยาตามความรุนแรงของสิว รวมถึงใช้ยาต่อเนื่องเพื่อป้องกันการเกิดสิวใหม่ ที่สำคัญ การรักษาสิวอาจใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล และไม่ควรซื้อยารับประทานเอง เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ยา เชื้อดื้อยา ยากินรักษาสิวฮอร์โมน หรือผลข้างเคียงจากการใช้ยาได้ ดังนั้นการรักษาสิวด้วยยา ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้งเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุดค่ะการทานยาเพื่อรักษาสิวค่อนข้างมีข้อจำกัดและอาจจะมีผลข้างเคียงที่รุนแรงกว่ายาทาภายนอก ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนรับประทานเพื่อความปลอดภัยของตนเอง การรักษาสิวด้วยวิธีทานยาสามารถแบ่งออกเป็น 3 แบบหลักๆ ได้แก่ 

 

Antibiotic and antibacterial agents

 

การใช้ยาปฏิชีวนะและยาต้านเชื้อแบคทีเรียชนิดทาน มีทั้งแบบรับประทานเดี่ยวๆ และใช้เป็นยาสูตรผสมสองตัวร่วมกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับอาการความรุนแรงของสิวและดุลพินิจของแพทย์ ยาปฏิชีวนะชนิดทานที่ใช้รักษาสิวได้แก่ Tetracycline, Doxycycline และ Macrolide แต่การใช้ยาปฏิชีวนะมีข้อเสียคือหากใช้ไปสักระยะอาจเกิดอาการดื้อยาได้

 

Isotretinoin

 

เป็นยาในกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ ซึ่งนิยมใช้กับผู้ที่เป็นสิวที่มีความรุนแรงปานกลางไปจนถึงรุนแรงมาก เช่น สิวหัวช้าง หรือสิวอักเสบรุนแรง นอกจากนี้ยังนิยมใช้กับผู้ที่มีอาการดื้อยาจากการใช้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งยา Isotretinoin ออกฤทธิ์ลดการอักเสบและช่วยยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน ช่วยให้ปริมาณของน้ำมันลดลง ส่งผลให้จำนวนเชื้อแบคทีเรีย C.acne ลดลงไปด้วย  นอกจากนี้ Istretinoin ช่วยให้การผลัดเซลล์ผิวเป็นปกติ และยับยั้งการสร้างคอมีโดน (Comedone) แม้ว่า Istretinoin จะมีฤทธิ์ครอบคลุมในการรักษาแต่ก็มีผลข้างเคียงเช่นเดียวกัน ซึ่งความรุนแรงของผลข้างเคียงจากการใช้ยาจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ทั้งนี้วิธีลดสิวโดยยาทานและยาทาภายนอกทุกชนิด ควรปรึกษาแพทย์และปฏิบัติตามฉลากบนกล่องอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากยาบางตัวสามารถก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้หากใช้ รักษาสิว แบบผิดวิธี

 

ยารักษาสิวฮอร์โมน

 

สิวที่เกิดจากฮอร์โมนนั้น เราสังเกตุง่ายๆ คือ สิวในกลุ่มนี้สามารถเกิดได้ทั้งชายและหญิง อย่างแรกเลยคือ คนกลุ่มนี้จะมีผิวหน้าที่มันง่ายกว่าปกติ  และในผู้หญิงจะสังเกตได้ว่าสิวชนิดนี้มักจะมาตอนที่สาวๆ ใกล้มีรอบเดือน โดยยาที่ใช้รักษาสิวในกลุ่มนี้ได้ดีที่สุดคือ ยาคุมกำเนิด ชนิดรับประทาน ที่มีปริมาณ Estrogen 30 ไมโครกรัม และมีตัวยา Progesterone ที่ชื่อว่า Cypoterone acetate มาเป็นช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมน และออกฤทธิ์การยับยั้งฮอร์โมนเพศชายในผู้หญิง

 

ข้อควรระวังของการใช้ยารักษาสิว

 

ถ้าขึ้นชื่อว่ายาแล้วมีคุณก็หย่อมมีข้อควรระวัง ยาสำหรับรักษาสิวก็เช่นกัน โดยไม่ว่าจะเป็นยากิน หรือยาทาก็จะมีข้อควรระวังอยู่ ดังนี้

  • ยาที่มีส่วนผสมของสารเรตินอล เวลาใช้ก็ต้องระมัดระวังไม่ให้ผิวหน้าถูกแสงแดด หรือแสงไฟแรงๆ เพราะจะทำให้ผิวไหม้ได้
  • การใช้ยากลุ่ม Benzoyl perooxide ก็ต้องระวังเรื่องการแสบ ระคายเคืองผิว
  • การใช้ยาฆ่าเชื้อรา ชนิดรับประทาน ก็ต้องห้ามใช้หรือหลีกเลี่ยงในผู้ป่วยที่เป็นโรคตับ หรือการใช้แชมพูฆ่าเชื้อรามากๆ ที่ผิวหนังก็อาจทำให้ผิว หรือหนังศีรษะแห้งได้

 

สรุปการใช้ยารักษาสิว

 

จากบทความ จะเห็นได้ว่ายารักษาสิวนั้นมีหลากหลายแบบมาก แต่สิ่งสำคัญที่สุดก่อนใช้ยา เราควรจะต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าเราเป็นสิวแบบไหน และยาแต่ละตัวตอบโจทย์กับปัญหาสิวที่เราเป็นหรือไม่ และยาเหล่านี้มีข้อควรระวังเวลาใช้อย่างไร เป็นอันตรายกับร่างกายของเรามั้ย แต่ถ้าหากไม่มั่นใจก็ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง หรือถ้าเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์กับผู้ที่กำลังหายารักษาสิว แอดมินก็ขอฝากช่วยกดแชร์บทความที่ปุ่มด้านล่างให้เราด้วยนะ แล้วมาพบกับบทความดีๆ ใหม่ในบทความหน้า บะบาย

 

บทความที่แนะนำ